วันอาทิตย์ที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

ตัน ภาสกรนที นักธุรกิจผู้ก่อตั้งบริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)


ตัน ภาสกรนที เกิดเมื่อปี พ.ศ. 2502 ในครอบครัวที่มีฐานะปานกลาง จบการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ต่อมาทำงานที่บริษัท ราชธานี เมโทร ซึ่งขายฟิล์มสีซากุระ ซึ่งทำงานเป็นพนักงานแบกของ เริ่มต้นค่าแรงในการทำงาน 700 บาท และหันมาทำอาชีพพ่อค้าแผงหนังสือที่ชลบุรี และได้เริ่มต้นซื้อห้องแถวขยายกิจการจนเป็นเจ้าของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์
ตัน เริ่มต้นธุรกิจ “โออิชิ” ภัตตาคารบุปเฟ่ต์อาหารญี่ปุ่น และมีธุรกิจอื่นๆ เช่น สตูดิโอถ่ายภาพแต่งงาน จนกระทั่ง มาทำธุรกิจเครื่องดื่ม คือ ชาเขียวโออิชิ และ อะมิโน โอเค
ปี 2548 และ ปี2549 ตันได้รับการโหวตให้เป็น Role Model อันดับ 2 รองจากเจริญ สิริวัฒนภักดี ที่เป็นอันดับ 1 และชื่อของเขาถูกเสนอขึ้นเป็น Role Model ในลำดับต้นๆ มาโดยตลอดจุดเด่นคือ อันดับที่เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดจากที่เคยได้รับการโหวตให้อยู่ในอันดับที่ 14 ในปี 2547 มาเป็นอันดับ 2 ในปี 2548 และปี2549 แสดงว่าสังคมไทยมองว่าตันเป็นต้นแบบที่สมควรเอาเยี่ยงอย่าง
บทบาทที่โดดเด่นของตัน นอกจากภาพการต่อสู้ชีวิตที่กลายเป็นแบบอย่างให้คนหลายๆ คน กลยุทธ์การตลาดที่เขานำมาปั้นแบรนด์โออิชิ ก็ถือเป็น talk of the tawn ก่อนหน้านี้เขาเลือกแจกเงิน 30 ล้านบาท เพื่อกระตุ้นยอดขายชาเขียวโออิชิให้เติบโตแบบก้าวกระโดดกว่า 170% และดันให้โออิชิก้าวขึ้นเป็นอันดับหนึ่งของชาเขียว ต่อมาเขาเลือกวิธีการขายแบบใหม่แทนการขายชาเขียวเป็นขวดๆ ซึ่งสร้างผลกำไรให้เขามากมาย แต่ในที่สุดตัน ภาสกรนที เลือกขายบริษัทโออิชิ กรุ๊ป ที่สร้างมากับมือให้กับกลุ่มบริษัททีซีซีของเจริญ สิริวัฒนภักดี ในราคา 3,352 ล้านบาท โดยได้รับเงื่อนไขที่ดีสำหรับตัวเขาเองว่ายังต้องทำงานบริหารบริษัทต่อไปเช่นเดิม เพียงแต่เปลี่ยนบทบาทมาเป็นมืออาชีพไม่ใช่เจ้าของบริษัท การขายหุ้นโออิชิ กรุ๊ป ครั้งนี้มีการประเมินกันว่าธุรกิจชาเขียวกำลังเข้าสู่ช่วงขาลงที่ผ่านมาตลาดโตด้วยโปรโมชั่น จากนี้ไปคือการขายกันที่ตัวสินค้าและกลยุทธ์การตลาดที่ชัดเจน เมื่อการเจรจาซื้อหุ้นมาถูกที่ ถูกเวลา จึงเป็นเรื่องที่ตัดสินใจง่ายและสรุปลงตัวอย่างรวดเร็ว ส่วนกลุ่มทีซีซีก็จะได้ธุรกิจเครื่องดื่มสุขภาพ ร้านอาหาร แบบพร้อมใช้ ไม่ต้องบ่มเพาะ ซึ่งเป็นธุรกิจที่กลุ่มนี้ยังไม่มีอยู่ในมือ ถ้าการทำธุรกิจเป้าหมายอยู่ที่การทำกำไรสูงสุดในระยะเวลาอันรวดเร็ว สูตรสำเร็จของชาเขียวโออิชิ กับตัน ภาสกรนที ก็บรรลุวัตถุประสงค์ไปเรียบร้อยแล้ว แม้ต่อมาในภายหลังบริษัทโออิชิไม่ได้เป็นของตันอีกต่อไปแล้ว แต่คนก็ยังมองว่าเขาเป็นตัวอย่างของคนที่ต่อสู้ชีวิต ในทางกลับกัน การที่ตันตัดสินใจขายหุ้นบริษัทโออิชิออกไป คนยิ่งกลับมาให้ความสนใจมากว่า เพราะเขาสามารถขายได้ถูกจังหวะ ถูกเวลา ขายได้ราคาและโดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นการขายให้กับมหาเศรษฐีอันดับ 1 ของเมืองไทย อย่างเจริญ สิริวัฒนภักดี สิ่งนี้เป็นสิ่งที่ผู้คนยิ่งยอมรับตัน ภาสกรนที มากขึ้น ทุกวันนี้ ชื่อของตันปรากฏตามสื่อต่างๆ น้อยมาก หากเปรียบเทียบกับเมื่อ 4 ปีก่อน ช่วงที่บริษัทโออิชิเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ใหม่ๆ ดังนั้น การที่ชื่อของตันยังถูกเสนอขึ้นมาสู่อันดับ 3 Role Model ประจำปี 2551 จึงไม่ใช่เป็นเพราะกระแสหรือเป็นเพราะคนเห็นชื่อหรือหน้าตาของเขาปรากฏอยู่ตามสื่อบ่อยๆ แต่เป็นเพราะคนยังมีความเชื่อมั่น ให้การยอมรับในตัวของตันอย่างต่อเนื่อง สังคมยังคงมองว่าตัน ก็คือโออิชิ หรือโออิชิ ก็คือ ตัน ทั้งๆ ที่บทบาทในโออิชิของตันในวันนี้ เป็นเพียงลูกจ้าง คนยังมองตันเป็นผู้ประกอบการที่ปลุกปั้นธุรกิจจากมูลค่าไม่กี่ล้านบาทขึ้นมาเป็นหลักพันล้านบาทได้ในชั่วระยะเวลาไม่กี่ปี คนหลายคนยังคงอยากเป็นอย่างเขา
ที่มา
http://www.gotomanage
http://th.wikipedia.org/wikir.com/news/details.aspx?id=76268
http://www.gotomanager.com/news/details.aspx?id=51511

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น